ยินดีต้อนรับเข้าสู่ BLOG กลุ่ม friends

เชิญเข้าไปอัพเดทและแสดงความคิดเห็นได้เลยค่ะ

16 กรกฎาคม 2551

คุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขายเครื่องทำน้ำเย็นที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อถังน้ำเป็นการชั่วคราว

....สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ รับแจ้งจากนางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคว่า ปัจจุบันมีการใช้เครื่องทำน้ำเย็นอย่างแพร่หลายในสถานที่ต่างๆเช่นสถานศึกษา และสถานประกอบการ โดยมีทั้งแบบเครื่องทำน้ำเย็นที่ผลิตอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเครื่องที่ผลิตด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องด้วยการใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อของตะเข็บถังน้ำหรือท่อส่งน้ำ ทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารตะกั่วในน้ำดื่มที่บรรจุในเครื่องทำน้ำเย็นดังกล่าว ซึ่งมีรายงานผลการสำรวจและตรวจพิสูจน์น้ำดื่มในเครื่องทำน้ำเย็นในสถานศึกษาในหลายจังหวัดของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบการปนเปื้อนของสารตะกั่วในน้ำดื่มเกินมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชนในวัยเจริญเติบโต
เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สิ้นค้าดังกล่าว คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีคำสั่งที่ 10/2550 ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2550 เรื่องห้ามขายเครื่องทำน้ำเย็นที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อมต่อของตะเข็บถังน้ำหรือท่อส่งน้ำเป็นการชั่วคราว จนกว่าคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจะมีคำสั่งยกเลิก โดยรวมถึงการให้เช่า ให้เช่าซื่อ หรือจัดหาให้ไม่ว่าด้วยประการใด โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น ตลอดจนการเสนอหรือชักชวนเพื่อการดังกล่าว และให้ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งประสงค์จะขาย ผลิต สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขายเครื่องทำน้ำเย็นที่ใช้ตะกั่วเป็นตัวประสานรอยเชื่อม ทำการติดต่อกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อดำเนินการทดสอบหรือพิสูจน์สินค้าดังกล่าว ว่าสินค้านั้นไม่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค จึงขอประชาสัมพันธ์มาให้ทราบโดยทั่วกัน
ขอขอบคุณเว็บไซท์ http://www.prdnorth.in.th/ct/news/viewnewsN.php?ID=071031111438

......จากข่าวด้านบนกลุ่มเรามีความคิดเห็นว่าองค์การคุ้มครองผู้บริโภคทำถูกแล้ว เป็นการคุ้มครองที่แก้แต่ต้นเหตุ เพื่อที่จะไม่ได้ไปเกิดอันตรายแก่ผู้อื่นอีกต่อไป อยากจะขอให้ทำอย่างนี้อีกต่อไป อย่างน้อยผู้บริโภคก็จะได้อุ่นใจ ที่องค์การเล็งเห็นหนทางแก้ไข

ในปัจจุบันสิทธิของผู้บริโภคที่ได้รับอยู่เป็นอย่างไร?

.....กลุ่มเรามีความคิดเห็นว่ากฏหมายก็ออกมาอย่างชัดเจน อยู่แต่ไม่ครอบคลุมได้ทั่วถึง อีกทั้งมีข้อจำกัดมากมาย เมื่อมีกฏหมายที่จะเอาผิดกับผู้ประกอบการได้ก็จริง คือการฟ้องร้อง แต่ฟ้องร้องไปก็ถูกฟ้องกลับซะงั้น โดยที่เราต้องการเรียกร้องสิทธิแต่กลับถูกฟ้องกลับ เพราะเหตุนี้จึงไม่ค่อยมีผู้บริโภคท่านใดที่จะกล้าเอาผิดกับผู้ประกอบการอีก อยากให้มีกฏหมายเอาผิดที่ครอบคลุมกว่านี้
....เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรก็ทิ้งไว้ได้นะคะ

สรุปสิทธิของผู้บริโภคในสังคมไทย...โดย กลุ่ม friends

ในความคิดของกลุ่มพวกเราจะสรุปตามที่กฏหมายของรัฐธรรมนูญตราไว้อย่างง่ายก็ คือ
1)สิทธิที่ผู้ซื้อจะได้รับรู้ความจริงหรือข้อมูลจริงๆของโฆษณาสิ่นค้าที่เราจะซื้อ ถ้าโฆษณาเกินจริงอาจจะทำให้เราหลงผิดซื้อได้
2)สิทธิในการเลือกซื้อโดยโดยที่เราสนใจจะซื้อจริงๆโดยไม่ถูกบังคับ
3)สิทธิในการได้รับความปลอดภัย ก็คือ สินค้าที่นำมาขายให้เราซื้อนั้นจะต้องมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน ถ้ามีข้อห้ามหรือข้อควรระวังก็ต้องอ่านให้ดีก่อน
4)สิทธิในการทำสัญญา เราก็ควรอ่านสัญญาให้เข้าใจก่อน เพื่อที่จะได้รับความเป็นธรรมของผู้บริโภค
5)สิทธิในการได้รับการชดเชยของเสียหาย เมื่อสินค้าเสียหายเราก็จะได้รับค่าชดเชยตามสัญญา

สิทธิของผู้บริโภคคือ?

....กฎหมายรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายหลักที่วางหลักการเรื่องนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการบัญญัติกฎหมายเรื่อง การคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค และการจัดตั้งองค์การอิสระที่ทำหน้าที่ออกกฎเกณฑ์ ระเบียบ และมาตรการต่างๆ เพื่อ บรรลุวัตถุประสงค์ตามกฎหมายในเรื่องนั้นๆ กล่าวคือผู้บริโภคในความหมายทั่วไปย่อมหมายถึงบุคคลทั่วไปที่เกี่ยว ข้องกับกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้อุปโภคบริโภคสินค้า ผู้ใช้บริการของร้านค้าหรือสถานบริการ ในบางกรณีบุคคลเหล่านี้จะได้รับความคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย แต่ในบางกรณีจะต้องเป็นบุคคลที่ระบุไว้ในกฎหมายเฉพาะเรื่องเท่านั้นจึงจะได้รับความคุ้มครอง อาทิเช่น เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ จึงเป็นผู้บริโภคตามความหมายใน “พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒“, “พระราชบัญญัติการแข่งขันทาง การค้า พ.ศ. ๒๕๔๒“ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นกฎหมายเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการควบคุมการประกอบการชนิด นั้นๆ กฎหมายสำคัญที่วางหลักการพื้นฐานเรื่องการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในเรื่องการซื้อขายสินค้าและ บริการคือ“พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒“ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๔๑


ขอขอบคุณเว็บไซท์ http://mail.hu.ac.th/~s3152024/custom.htm

14 กรกฎาคม 2551

สมาชิกกลุ่ม"friends"

1...51116940006___นาย_____นรารักษ์___ฤกษ์ดี
2...51116940015___นาย______พังงา_____
บรรจงอักษร
3...51116940038___นางสาว___สุจิตตรา___
ปิ่นทอง
4...51116940043___นางสาว___จิราภรณ์___
อุ่นเมือง
5...51116940050___นางสาว___ปรารถนา___
อ่อนเอี่ยม
6...51116940057___นาย_____มนัสวี______
อยู่ยอด
7...51116940066___นางสาว___กมลชนก___
เพชรยอดศรี
8...51116940078___นางสาว___วัศนี______
แย้มประยูรสวัสดิ์
9...51116940090___นางสาว___ชนิดา_____พัดขุนทด
ที่ปรึกษากิจกรรม......อาจารย์ ศัชชญาส์ ดวงจันทร์

ประวัติวัดรวก


.........วัดรวก เดิมนั้นเป็นวัดร้างมาก่อน ทั่วบริเวณวัดมีป่าไผ่รวกขึ้นเต็มไปหมด จึงตั้งชื่อว่าวัดรวก ต่อมาในปีพุทธศักราช2467 หลวงพ่อพร้อม จตฺตเสโต (เจ้าอาวาสรูปแรก) ได้เข้ามาบูรณะวัดรวกขึ้นใหม่ หลวงพ่อพร้อมท่านมีความสามารถและโด่งดังมากในด้านเวทมนต์คาถา เสกเป่าทำน้ำมนต์รักษาเกี่ยวกับเรื่องกระดูกแตกหัก จนเป็นที่ร่ำลือ ทำให้มีคนรู้จักวัดรวกมากขึ้น ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูชั้นประทวนที่ "พระครูพร้อม" และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น"พระครูนนทการประสิทธิ์"ในปี พ.ศ.2501 หลวงพ่อพร้อมท่านเป็นเจ้าอาวาสดูแลวัดรวกตั้งแต่ปี พ.ศ.2467 ถึงปี พ.ศ.2508 หลังจากหลวงพ่อพร้อมได้มรณภาพลง พระอาจารย์มหาสมศักดิ์ ฐิตธมฺโม ก็ได้เข้ามาดำรง ตำแหน่งเจ้าอาวาสปกครองดูแลวัดรวกเป็นรูปที่ 2 ตั้งแต่ปีพ.ศ.2509 ถึงปี พ.ศ. 2529 รวม 20 ปี หลังจากนั้นพระมหาประยงค์ สุวโจ ได้มาเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 3 ต่อจากพระอาจารย์มหาสมศักดิ์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 ถึงปี พ.ศ.2544 แล้วต่อมาพระครูสังฆรักษ์ณรงค์ปวีโร ก็ได้มาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสปกครองดูแลวัดรวกตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากวัดรวกมีสภาพทรุดโทรมมากในปัจจุบัน จึงมีความจำเป็นต้องใช้ปัจจัยจำนวนมากในการที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ให้มีสภาพเหมือนเดิม พระครูสังฆรักษ์ณรงค์ ปวีโร จึงได้ดำริที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลองค์จตุคามรามเทพขึ้นเพื่อตอบแทนแก่พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมทำบุญบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆของวัดรวกและให้พุทธศาสนิกชนทั่วไปได้บูชา โดยใช้ชื่อรุ่นว่า "มงคลชีวิต" เพื่อให้เกิดความเป็นมงคลในชีวิตแก่ผู้ที่ได้บูชา ตามคำกล่าวของผู้ที่เคยบูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพ ที่ว่า ผู้ใดที่บูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพ จะประสบแต่สิ่งที่ดีมีมงคล "ขอได้ ไหว้รับ"..............................................................................

13 กรกฎาคม 2551

เหนื่อยจังบุญครั้งนี้ (แต่ก็อิ่มบุญ)

.......วันแรกของการทำงานกลุ่มเพื่อนๆทุกคนได้ลงมติกันว่าจะไปทำงานกันที่วัดในชุมชนใกล้บ้าน แต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่ามันจะมีอุปสรรคในการทำงานมากมายขนาดนี้ทั้งเพื่อนๆมีเวลาว่างที่ไม่ตรงกันจึงทำให้มีเพื่อนหนึ่งคนมาทำงานกับพวกเราได้ในวันนี้ แต่เราก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะไปบำเพ็ญประโยชน์ที่วัด พวกเราได้เลือกที่จะไปบำเพ็ญประโยชน์ที่วัดรวกซอยจรัญสิทวงศ์57ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่ง วัดที่เราได้เลือกไปทำนั้นตั้งอยู่กลางชุมชนซึ่งจะมีตลาดนัดทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี ทำให้บริเวณวัดมีความสกปรกนี้จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กลุ่มเราเลือกที่จะไปทำความสะอาดบริเวณวัดนี้ เมื่อเราไปถึงเราได้ไปขออนุญาติเจ้าอาวาสของวัดว่าเราจะมาทำความสะอาดเนื่องจากเราต้องการนำเสนอโครงงานในรายวิชากฏหมายและจริยธรรม เจ้าอาวาสได้อนุญาติให้พวกเราได้ลงมือกันทำความสะอาดวัด หลังจากที่เราได้ทำความสะอาดบริเวณวัดเสร็จเราก็ได้ไปร่วมกันรวมเงินทำบุญกันที่ศาลาวัด แล้วนี้ก็เป็นวันแรกในการทำงานของกลุ่มเราแต่ทุกคนก็ได้ช่วยกันเต็มที่ถึงสมาชิกในกลุ่มเราจะไม่ครบก็ตาม............................

........วันที่สองของการทำงานของกลุ่มเราก็เริ่มขึ้นอีกครั้งเนื่องจากวันแรกของเรามีสมาชิกในกลุ่มไม่พร้อมจึงทำให้กลุ่มของพวกเราได้เริ่มกันทำงานต่อ วันที่สองของการทำงานอาจจะดูเหมือนราบรื่นดีเพราะเพื่อนในกลุ่มของเรามากันครบแต่ก็ไม่วายที่จะมีอุปสรรคเกิดขึ้นเนื่องจากฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาสร้างความเบื่อหน่ายให้พวกเราในกลุ่มแต่พวกเราก็ต้องทำงานต่อให้เสร็จ เราก็เลยเปลี่ยนจากการกวาดบริเวณวัดเป็นการทำความสะอาดบนศาลาวัดแทน โชคดีจังวันนี้เป็นวันพระจึงมีงานให้พวกเราทำ พวกเราได้เริ่มจากการเก็บเสื่อ กวาดขยะ เก็บเศษอาหาร ล้างจาน ทำความสะอาดโรงครัว เป็นต้น หลังจากที่เราได้ทำความสะอาดกันเสร็จแม่ชีได้ให้ขนมพวกเราทานกัน เราได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับแม่ชีเพื่อเป็นที่ระลึกในการบำเพ็ญประโยชน์ครั้งนี้ ในการทำงานของวันที่สองของพวกเราก็ได้สิ้นสุดลงอย่างราบรื่น